สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
สวัสดีครับทุกท่าน 
ทั้งที่เป็นแฟนรายการเราไม่ว่าจะติดตามเรามายาวนานแค่ไหน หรือท่านที่ไม่ค่อยได้ติดตามเราก็ตาม ผมปีเตอร์กวงควงมือถือ ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ถามไถ่กันเข้ามาในเว็บพันทิพแห่งนี้ รู้สึกดีใจที่ยังมีคนนึกถึงพวกเราอยู่ ซึ่งก็คงมีอยู่ไม่มากก็ไม่น้อย ถ้าหลายๆคนจำได้ว่ารายการแบไต๋ไฮเทคที่ดำเนินงานโดยบริษัทโชว์ไร้ขีด ได้ปิดรายการลงเมื่อ31 ก.ค.ปี 2557 ถึงแม้ว่าจะขึ้นป้ายว่า ปิดชั่วคราว อะไรก็แล้วแต่ ความเป็นจริงในวันนั้นเราต้องยอมรับว่า “มันจบลงแล้วครับนาย” อย่างที่ไม่มีใครบอกได้ว่า มันจะกลับมาเมื่อไร มันจะมีอีกไหม ซึ่งอันนี้พวกผมทั้งสามคนในวันนั้น ซึ่งประกอบไปด้วย พี่หลาม อ.ศุภเดช และตัวกระผมเอง ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของหนุ่ย เพราะเขาเป็นเจ้าของรายการ และพวกเราเป็นเพียงคนที่เป็นเพื่อนและรับจ้างในการเป็นพิธีกรรายการแบไต๋ฯ ซึ่งดำเนินด้วยกันมากว่า 8 ปี ตอนที่พวกเราทำรายการนั้น พอทำๆไปก็รู้สึกได้ว่าพวกเราไม่ใช่เป็นเพียงพิธีกรรับจ้างทำงานเท่านั้น แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของมันสมองในการคิดในการสร้างสรรค์ตัวรายการด้วยกันมาตลอด เพราะพวกเรามีความรู้อยู่กับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว พวกเราทำหลายอย่างมากมาย ว่าไปมันก็มีค่ามากกว่าค่าจ้างที่เราได้ เพราะอินเนอร์มันแรงอ่ะ 555 และเราต้องการให้รายการออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะพี่หลามที่มีประสบการณ์ในการเป็นโปรดิวเซอร์ทำรายการทีวีต่างๆ มาตลอดอายุการทำงานอย่างมืออาชีพ ส่วน อ.ศุภเดชก็มีธุรกิจส่วนตัวในการรับวางระบบคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต ระบบ Security ให้กับองค์ใหญ่เล็กมาตลอด ส่วนตัวผมเองก็ทำงานอยู่วงการเทเลคอมมาตั้งแต่เรียนจบ แต่เราไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยหรอกว่าจ้าง 10 เล่น 100 หรือจ้าง 100 เล่น 1000 เพราะพวกเราทั้งสามรู้สึกผูกพันกับรายการมาก เพราะสิ่งที่เราได้พบเจอ ก็คือแฟนๆรายการที่รักและชื่นชอบในรายการ ศรัทธาในตัวพิธีกรในพวกเราทั้งสี่ที่มีคุณหนุ่ยเป็นหัวหอกนำอยู่ด้านหน้ามาเสมอ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงรายการไปอย่างไรตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จนวันหนึ่งด้วยการตัดสินใจของหัวเรือและเจ้าของรายการได้ตัดสินใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ พวกเราสามคนที่ไม่ได้มีหุ้นส่วนแต่อย่างใด เราก็คงคัดค้านอะไรไม่ได้ ได้แต่ถามว่าทำไม ถึงแม้ว่าเราจะยื้อให้คิดใหม่ แต่หนุ่ยก็ยืนกรานในการตัดสินใจและเราก็ต้องเคารพในสิ่งนั้น
โดยส่วนตัวพวกเราไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องการเงิน เพราะพวกเราทั้งสามคนก็มีงานหลักของตัวเองอยู่แล้วอย่างที่หลายๆท่านคงทราบอยู่บ้าง และพวกเราเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหนุ่ยด้วย ต้องขอบคุณหนุ่ยด้วยซ้ำที่พาพวกเรามาเป็นส่วนหนึ่งของรายการไอทีที่ดีที่สุดในยุคหนึ่ง ผมยังจำได้ในวันที่หนุ่ยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารายการไอที “แบไต๋ไฮเทค” รายการไอที ที่ดังที่สุดในยุคนี้จะต้องปิดตัวลง(ชั่วคราว) ก็มีเสียงเศร้าๆ และตัดพ้อมากมายจากแฟนๆรายการที่เป็นคนไทย และคนในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดตามพวกเราอยู่ (แฟนๆรายการจากประเทศลาวก็เยอะมากนะครับ หรือแฟนๆรายการคนไทยที่อยู่ต่างแดน) เต็มหน้าเว็บของเรา เต็มหน้าเฟซบุ๊คของรายการ แฟนๆรายการหลายคนเศร้า พวกเขาอยากให้รายการเรายังอยู่และมีความสุขกับทุกๆครั้งเมื่อเราโยนมุขกัน และมียิ้มมุมปากเมื่อพวกเขาดูพวกเราทั้งสี่อยู่ที่บ้าน หลายๆคนถึงขนาดบอกว่า คงเลิกดูทีวีแล้วล่ะเพราะรายการเราเป็นรายการเดียวที่พวกเขายังตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่ที่หน้าจอ หลายๆคนบอกขอบคุณที่สร้างสรรค์รายการมาให้เราได้ชม มันเป็นรายการที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมายในวัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยปลดเกษียณ ได้ค้นพบตัวเองว่าสิ่งที่เขาชอบคืออะไร สิ่งทีเขาอยากเรียนคืออะไร และอยากเป็นอะไรในยุคที่เศรษฐกิจมันเน่าไปหมด ผมได้มีโอกาสพบแฟนรายการพันธ์แท้ท่านนึงในตอนเดินเล่นห้างฯอยู่หลังจากที่รายการต้องเลิกลาไป เขาเดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่า “พี่ปีเตอร์กวงครับ ผมเป็นแฟนรายการพวกพี่ครับ ดูตั้งแต่ยังอยู่มอต้น จนวันนี้ผมเรียนวิศวะครับ เพราะมีแรงบันดาลใจมาจากการดูรายการพวกพี่ ทำให้ผมค้นพบว่าผมชอบอะไร ขอบคุณมากๆนะครับที่ทำรายการดีอย่างนี้ขึ้นมา แต่ได้ยินว่าพวกพี่จะเลิกทำรายการแล้ว ขอได้ไหมครับว่าพวกพี่อย่าหยุดทำมันเลยนะครับ ผมเชื่อว่ายังมีคนไทยอีกมาก ที่ยังติดตามและมีความสุขในสาระที่พวกพี่ให้คนดูมาตลอด มันเป็นรายการทีวีที่อยู่ในใจพวกผมและเพื่อนๆ มาอย่างยาวนาน แม่กะพ่อเคยถามว่าดูตลกคาเฟ่อยู่หรือ ทำไมไม่เอาเวลาไปท่องหนังสือ ผมเลยชวนพ่อกะแม่ผมมาดูด้วย ผ่านไปสองสามอาทิตย์ท่านบอกว่า เอ่อ! รายการนี้มันก็ดีนะ มีสาระแถมแฝงไว้กับความขำขันที่ไม่ต้องหยาบคาย ก็ขำได้ด้วย ดีๆไว้อย่าลืมชวนพ่อกะแม่ดูตลอดนะ ถ้าไม่ติดอะไรจะดูด้วย สนุกดีแถมได้สาระพ่อเอาไปคุยกะเพื่อนได้ด้วย” ผมนี่ฟังแล้วน้ำตาเล็ดเลย ไม่คิดว่าสิ่งที่มันดำเนินมาอย่างยาวนาน จะมีอะไรตอบกลับให้เราได้ชื่นใจมากๆ ที่ชื่นใจก็เพราะสิ่งที่พวกเราได้ทำไป ความรู้สิ่งที่เรารู้ได้แชร์ให้กับคนดู แล้วมันได้ต่อยอดให้กับพวกเขา ได้มีความรู้ ได้สาระจากการดูรายการ มันปริ่มสุขมากนะ แต่ก็รู้สึกใจหายกับสิ่งที่เราเคยทำมานานๆแล้วเราต้องหยุดทำมัน... เมื่อกลับถึงบ้านผมก็เลยเปิดเฟสบุ๊คแล้วถามแฟนๆรายการว่า ถ้าผมทำรายการพูดข่าววิเคราะห์ข่าวไอที รีวิวมือถือผ่านทางเฟซบุ๊ค ยูทูป พวกพี่ๆน้องๆจะสนใจติดตามไหมครับ คำตอบที่ผมได้อย่างล้นหลามก็คือ “แน่นอนครับ ติดตามแน่ๆ อยากให้ทำๆๆ” ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากทำสิ่งนั้นอีกครั้ง โดยที่ผมเองไม่รู้เลยว่า พี่หลามก็กำลังคิดเช่นเดียวกันอยู่ ไม่ต่างอะไรจาก อ.ศุภเดช เราสามคนก็เลยนัดเจอกันแล้วถามกันว่าคิดเหมือนกันไหม คำตอบก็คือ “ใช่” พวกเราเลยเดินหน้าที่จะทำมันอย่างจริงจัง โดยได้การอนุเคราะห์และเกื้อกูลจากทาง Nation Channel ที่เชื่อว่าพวกเรายังทำรายการไอทีที่ดีๆกลับมาได้แน่ๆ (ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เอ็นดูและเชื่อมั่นพวกเรา นั่นก็คือ พี่อดิศักดิ์ ลิ้มปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหารระดับสูงของช่อง Nation ที่ให้ความกรุณากับพวกเรา) โดยเฉพาะการกลับมาสู่บ้านหลังแรกที่แบไต๋เกิดเมื่อปี 2549 ในยุคแรก ตอนที่พวกเราคิดชื่อรายการใหม่ของพวกเรานั้นต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากมาก คิดกันแทบตาย อ.ศุภเดช (สมุ้งเด้นนี่แหละ) ก็โพร่งออกมาว่า “ล้ำหน้า...ล้ำหน้าโชว์” ซึ่งเป็นชื่อที่ตรงใจเราทั้งสามคนขึ้นมาทันที อันนี้ต้องให้เครดิต อ.ศุภเดช ผู้ดำริชื่อรายการของพวกเรา 555 ชอบมาก หลังจากนั้นเราก็ลงขันกันทุบกระปุกมาก่อตั้งบริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด โดยมีพวกเราสามคนถือหุ้นด้วยกัน อืม..บริษัทแรกในชีวิตผมเลยนะเนี่ย 555
ในตอนนั้นต้องบอกว่า พวกเราทั้งสามเองก็ได้ถามไถ่ทางหนุ่ยเหมือนกันนะว่า หนุ่ยสนใจที่จะมาแจมกับพวกเราไหม อันนี้ไม่มีความลับใดๆ เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ ต้องบอกก่อน (แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาดราม่าบอกสื่อ แต่ที่วันนี้มาให้ความกระจ่างก็เพราะว่าดูหลายๆคนออกจากมีความเข้าใจต่างๆกันไปบ้างแล้ว และมันก็ผ่านมากเกือบสองปีแล้ว ผมก็เลยมาไขเรื่องนี้เองเลย) ซึ่งเวลารายการ “ล้ำหน้าโชว์” นั้นเราได้เวลาจากทาง Nation ในวันอาทิตย์ตอน 15:00-16:00 ซึ่งหนุ่ยเองได้บอกว่าวันอาทิตย์เป็นวันที่เขาไม่สะดวก และถ้าไม่ได้ถือหุ้นเองก็คงไม่ทำดีกว่า ปล่อยพวกพี่ทำกันเถอะ สรุปรายการล้ำหน้าโชว์ โดยบริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด ที่ก่อตั้งมาโดยพวกเราสามคน พี่หลาม อ.ศุภเดช ปีเตอร์กวง ก็ได้กำเนิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 นี่ก็ผ่านมาปีครึ่งแล้ว ถือว่าเราก็ได้บรรลุในอุดมการณ์ของพวกเรามาถึงระดับหนึ่ง การบริหารที่ต้องทำให้รายการอยู่ได้ ไม่ได้หวังจะร่ำรวยอะไรมากมายเพราะหลายๆท่านคงทราบ การหาสปอนเซอร์วันนี้มันยากกว่าสมัยก่อนมากมาย ทีวีก็มีช่องเยอะแยะอย่าง
กเห็ด แชร์ในโฆษณารายการทีวีก็มากจนการหารายได้นั้นสิ่งที่ต้องทำคือให้สามารถอยู่รอดได้เสียก่อน เพื่อคงไว้ซึ่งรายการของพวกเรา เพื่อแฟนรายการที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่ที่บ้าน ได้เปิดดูพวกเรา เพื่อสาระ เพื่อความผ่อนคลาย เพื่อความสนุก และพวกเราก็ทำด้วยใจอย่างมีความสุขถ้วนหน้ากันครับ ขณะที่รายการทีวีของหนุ่ยในไทยรัฐและช่องอื่นๆ ล่าสุดก็เห็นว่ายกเลิกไปหมดแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรอันนี้ผมก็ต้องบอกเลยว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ได้ไปสอบถามเขาแต่อย่างใด และหนุ่ยก็หันไปทำรายการใน Line TV แต่เพียงอย่างเดียวแล้ว โดยที่พวกผมเองก็ไม่สามารถจะไปร่วมงานด้วยได้ เพราะเรามีอะไรต้องทำเยอะ เพราะพวกเราต้องทุ่มเทให้กับบริษัทของพวกเราเองอย่างเต็มที่ และยังมีภารกิจที่ต้องทำงานส่วนตัวของพวกเรา รวมถึงดูแลครอบครัวของเราอีกด้านหนึ่ง ปัจจุบันเวลาของรายการเรานั้นก็ยังอยู่ที่ช่อง Nation Channel ช่อง 22 เพียงแต่ย้ายเวลามาอยู่ในวันเสาร์ 16:00-17:00 หนึ่งชั่วโมงเหมือนเคยนะครับ สัญญาครับว่าเรายังคงตั้งใจทำรายการไอทีนี้ต่อไปให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่มีใครอยากดูมัน
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม ขอบพระคุณทุกแรงใจที่มีต่อพวกเรานะครับ แล้วเจอกันข้างนอก ก็อย่าลืมทักทายกันนะครับ ไม่ต้องเขินหรือเกรงใจเพราะทุกครั้งที่พวกท่านทักทายเรา มันเป็นเสมือนอีกหนึ่งกำลังใจที่ช่วยให้พวกเราตั้งหน้าตั้งตาทำรายการ “ล้ำหน้าโชว์” ต่อไปให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ ขอบพระคุณมากๆครับผม แล้วพบกันครับผม
ปล.มีคำถามว่าแล้วทำไมตอนที่เลิกแบไต๋แล้ว พี่ปีเตอร์กวงไม่ไปแจมรายการอย่าง เกมโชว์โซเชียล หรือ The Reviewer ล่ะครับ ก็ต้องบอกว่าโดยอาชีพผมทำงานประจำ แล้วตอนนั้นรายการใหม่ๆของหนุ่ยที่ออกทางไทยรัฐทีวี เขาถ่ายทำกันในเวลาทำงานของผม ทำให้ผมก็เลยไม่ได้ไปแจมงานเขาอีกเลยนับแต่นั้น ส่วนรายการล้ำหน้าโชว์ เราออกอากาศสดและทำกันวันอาทิตย์ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาแต่อย่างใด (รายการเราเองก็กำหนดเวลาได้เอง จริงไหม อิอิ
)
ทั้งที่เป็นแฟนรายการเราไม่ว่าจะติดตามเรามายาวนานแค่ไหน หรือท่านที่ไม่ค่อยได้ติดตามเราก็ตาม ผมปีเตอร์กวงควงมือถือ ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ถามไถ่กันเข้ามาในเว็บพันทิพแห่งนี้ รู้สึกดีใจที่ยังมีคนนึกถึงพวกเราอยู่ ซึ่งก็คงมีอยู่ไม่มากก็ไม่น้อย ถ้าหลายๆคนจำได้ว่ารายการแบไต๋ไฮเทคที่ดำเนินงานโดยบริษัทโชว์ไร้ขีด ได้ปิดรายการลงเมื่อ31 ก.ค.ปี 2557 ถึงแม้ว่าจะขึ้นป้ายว่า ปิดชั่วคราว อะไรก็แล้วแต่ ความเป็นจริงในวันนั้นเราต้องยอมรับว่า “มันจบลงแล้วครับนาย” อย่างที่ไม่มีใครบอกได้ว่า มันจะกลับมาเมื่อไร มันจะมีอีกไหม ซึ่งอันนี้พวกผมทั้งสามคนในวันนั้น ซึ่งประกอบไปด้วย พี่หลาม อ.ศุภเดช และตัวกระผมเอง ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของหนุ่ย เพราะเขาเป็นเจ้าของรายการ และพวกเราเป็นเพียงคนที่เป็นเพื่อนและรับจ้างในการเป็นพิธีกรรายการแบไต๋ฯ ซึ่งดำเนินด้วยกันมากว่า 8 ปี ตอนที่พวกเราทำรายการนั้น พอทำๆไปก็รู้สึกได้ว่าพวกเราไม่ใช่เป็นเพียงพิธีกรรับจ้างทำงานเท่านั้น แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของมันสมองในการคิดในการสร้างสรรค์ตัวรายการด้วยกันมาตลอด เพราะพวกเรามีความรู้อยู่กับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว พวกเราทำหลายอย่างมากมาย ว่าไปมันก็มีค่ามากกว่าค่าจ้างที่เราได้ เพราะอินเนอร์มันแรงอ่ะ 555 และเราต้องการให้รายการออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะพี่หลามที่มีประสบการณ์ในการเป็นโปรดิวเซอร์ทำรายการทีวีต่างๆ มาตลอดอายุการทำงานอย่างมืออาชีพ ส่วน อ.ศุภเดชก็มีธุรกิจส่วนตัวในการรับวางระบบคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต ระบบ Security ให้กับองค์ใหญ่เล็กมาตลอด ส่วนตัวผมเองก็ทำงานอยู่วงการเทเลคอมมาตั้งแต่เรียนจบ แต่เราไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยหรอกว่าจ้าง 10 เล่น 100 หรือจ้าง 100 เล่น 1000 เพราะพวกเราทั้งสามรู้สึกผูกพันกับรายการมาก เพราะสิ่งที่เราได้พบเจอ ก็คือแฟนๆรายการที่รักและชื่นชอบในรายการ ศรัทธาในตัวพิธีกรในพวกเราทั้งสี่ที่มีคุณหนุ่ยเป็นหัวหอกนำอยู่ด้านหน้ามาเสมอ ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงรายการไปอย่างไรตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จนวันหนึ่งด้วยการตัดสินใจของหัวเรือและเจ้าของรายการได้ตัดสินใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ พวกเราสามคนที่ไม่ได้มีหุ้นส่วนแต่อย่างใด เราก็คงคัดค้านอะไรไม่ได้ ได้แต่ถามว่าทำไม ถึงแม้ว่าเราจะยื้อให้คิดใหม่ แต่หนุ่ยก็ยืนกรานในการตัดสินใจและเราก็ต้องเคารพในสิ่งนั้น
โดยส่วนตัวพวกเราไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องการเงิน เพราะพวกเราทั้งสามคนก็มีงานหลักของตัวเองอยู่แล้วอย่างที่หลายๆท่านคงทราบอยู่บ้าง และพวกเราเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับหนุ่ยด้วย ต้องขอบคุณหนุ่ยด้วยซ้ำที่พาพวกเรามาเป็นส่วนหนึ่งของรายการไอทีที่ดีที่สุดในยุคหนึ่ง ผมยังจำได้ในวันที่หนุ่ยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารายการไอที “แบไต๋ไฮเทค” รายการไอที ที่ดังที่สุดในยุคนี้จะต้องปิดตัวลง(ชั่วคราว) ก็มีเสียงเศร้าๆ และตัดพ้อมากมายจากแฟนๆรายการที่เป็นคนไทย และคนในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดตามพวกเราอยู่ (แฟนๆรายการจากประเทศลาวก็เยอะมากนะครับ หรือแฟนๆรายการคนไทยที่อยู่ต่างแดน) เต็มหน้าเว็บของเรา เต็มหน้าเฟซบุ๊คของรายการ แฟนๆรายการหลายคนเศร้า พวกเขาอยากให้รายการเรายังอยู่และมีความสุขกับทุกๆครั้งเมื่อเราโยนมุขกัน และมียิ้มมุมปากเมื่อพวกเขาดูพวกเราทั้งสี่อยู่ที่บ้าน หลายๆคนถึงขนาดบอกว่า คงเลิกดูทีวีแล้วล่ะเพราะรายการเราเป็นรายการเดียวที่พวกเขายังตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่ที่หน้าจอ หลายๆคนบอกขอบคุณที่สร้างสรรค์รายการมาให้เราได้ชม มันเป็นรายการที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมายในวัยเรียน วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยปลดเกษียณ ได้ค้นพบตัวเองว่าสิ่งที่เขาชอบคืออะไร สิ่งทีเขาอยากเรียนคืออะไร และอยากเป็นอะไรในยุคที่เศรษฐกิจมันเน่าไปหมด ผมได้มีโอกาสพบแฟนรายการพันธ์แท้ท่านนึงในตอนเดินเล่นห้างฯอยู่หลังจากที่รายการต้องเลิกลาไป เขาเดินเข้ามาหาผมแล้วบอกว่า “พี่ปีเตอร์กวงครับ ผมเป็นแฟนรายการพวกพี่ครับ ดูตั้งแต่ยังอยู่มอต้น จนวันนี้ผมเรียนวิศวะครับ เพราะมีแรงบันดาลใจมาจากการดูรายการพวกพี่ ทำให้ผมค้นพบว่าผมชอบอะไร ขอบคุณมากๆนะครับที่ทำรายการดีอย่างนี้ขึ้นมา แต่ได้ยินว่าพวกพี่จะเลิกทำรายการแล้ว ขอได้ไหมครับว่าพวกพี่อย่าหยุดทำมันเลยนะครับ ผมเชื่อว่ายังมีคนไทยอีกมาก ที่ยังติดตามและมีความสุขในสาระที่พวกพี่ให้คนดูมาตลอด มันเป็นรายการทีวีที่อยู่ในใจพวกผมและเพื่อนๆ มาอย่างยาวนาน แม่กะพ่อเคยถามว่าดูตลกคาเฟ่อยู่หรือ ทำไมไม่เอาเวลาไปท่องหนังสือ ผมเลยชวนพ่อกะแม่ผมมาดูด้วย ผ่านไปสองสามอาทิตย์ท่านบอกว่า เอ่อ! รายการนี้มันก็ดีนะ มีสาระแถมแฝงไว้กับความขำขันที่ไม่ต้องหยาบคาย ก็ขำได้ด้วย ดีๆไว้อย่าลืมชวนพ่อกะแม่ดูตลอดนะ ถ้าไม่ติดอะไรจะดูด้วย สนุกดีแถมได้สาระพ่อเอาไปคุยกะเพื่อนได้ด้วย” ผมนี่ฟังแล้วน้ำตาเล็ดเลย ไม่คิดว่าสิ่งที่มันดำเนินมาอย่างยาวนาน จะมีอะไรตอบกลับให้เราได้ชื่นใจมากๆ ที่ชื่นใจก็เพราะสิ่งที่พวกเราได้ทำไป ความรู้สิ่งที่เรารู้ได้แชร์ให้กับคนดู แล้วมันได้ต่อยอดให้กับพวกเขา ได้มีความรู้ ได้สาระจากการดูรายการ มันปริ่มสุขมากนะ แต่ก็รู้สึกใจหายกับสิ่งที่เราเคยทำมานานๆแล้วเราต้องหยุดทำมัน... เมื่อกลับถึงบ้านผมก็เลยเปิดเฟสบุ๊คแล้วถามแฟนๆรายการว่า ถ้าผมทำรายการพูดข่าววิเคราะห์ข่าวไอที รีวิวมือถือผ่านทางเฟซบุ๊ค ยูทูป พวกพี่ๆน้องๆจะสนใจติดตามไหมครับ คำตอบที่ผมได้อย่างล้นหลามก็คือ “แน่นอนครับ ติดตามแน่ๆ อยากให้ทำๆๆ” ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากทำสิ่งนั้นอีกครั้ง โดยที่ผมเองไม่รู้เลยว่า พี่หลามก็กำลังคิดเช่นเดียวกันอยู่ ไม่ต่างอะไรจาก อ.ศุภเดช เราสามคนก็เลยนัดเจอกันแล้วถามกันว่าคิดเหมือนกันไหม คำตอบก็คือ “ใช่” พวกเราเลยเดินหน้าที่จะทำมันอย่างจริงจัง โดยได้การอนุเคราะห์และเกื้อกูลจากทาง Nation Channel ที่เชื่อว่าพวกเรายังทำรายการไอทีที่ดีๆกลับมาได้แน่ๆ (ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เอ็นดูและเชื่อมั่นพวกเรา นั่นก็คือ พี่อดิศักดิ์ ลิ้มปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหารระดับสูงของช่อง Nation ที่ให้ความกรุณากับพวกเรา) โดยเฉพาะการกลับมาสู่บ้านหลังแรกที่แบไต๋เกิดเมื่อปี 2549 ในยุคแรก ตอนที่พวกเราคิดชื่อรายการใหม่ของพวกเรานั้นต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากมาก คิดกันแทบตาย อ.ศุภเดช (สมุ้งเด้นนี่แหละ) ก็โพร่งออกมาว่า “ล้ำหน้า...ล้ำหน้าโชว์” ซึ่งเป็นชื่อที่ตรงใจเราทั้งสามคนขึ้นมาทันที อันนี้ต้องให้เครดิต อ.ศุภเดช ผู้ดำริชื่อรายการของพวกเรา 555 ชอบมาก หลังจากนั้นเราก็ลงขันกันทุบกระปุกมาก่อตั้งบริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด โดยมีพวกเราสามคนถือหุ้นด้วยกัน อืม..บริษัทแรกในชีวิตผมเลยนะเนี่ย 555
ในตอนนั้นต้องบอกว่า พวกเราทั้งสามเองก็ได้ถามไถ่ทางหนุ่ยเหมือนกันนะว่า หนุ่ยสนใจที่จะมาแจมกับพวกเราไหม อันนี้ไม่มีความลับใดๆ เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ ต้องบอกก่อน (แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาดราม่าบอกสื่อ แต่ที่วันนี้มาให้ความกระจ่างก็เพราะว่าดูหลายๆคนออกจากมีความเข้าใจต่างๆกันไปบ้างแล้ว และมันก็ผ่านมากเกือบสองปีแล้ว ผมก็เลยมาไขเรื่องนี้เองเลย) ซึ่งเวลารายการ “ล้ำหน้าโชว์” นั้นเราได้เวลาจากทาง Nation ในวันอาทิตย์ตอน 15:00-16:00 ซึ่งหนุ่ยเองได้บอกว่าวันอาทิตย์เป็นวันที่เขาไม่สะดวก และถ้าไม่ได้ถือหุ้นเองก็คงไม่ทำดีกว่า ปล่อยพวกพี่ทำกันเถอะ สรุปรายการล้ำหน้าโชว์ โดยบริษัท ล้ำหน้าโชว์ จำกัด ที่ก่อตั้งมาโดยพวกเราสามคน พี่หลาม อ.ศุภเดช ปีเตอร์กวง ก็ได้กำเนิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 นี่ก็ผ่านมาปีครึ่งแล้ว ถือว่าเราก็ได้บรรลุในอุดมการณ์ของพวกเรามาถึงระดับหนึ่ง การบริหารที่ต้องทำให้รายการอยู่ได้ ไม่ได้หวังจะร่ำรวยอะไรมากมายเพราะหลายๆท่านคงทราบ การหาสปอนเซอร์วันนี้มันยากกว่าสมัยก่อนมากมาย ทีวีก็มีช่องเยอะแยะอย่าง
กเห็ด แชร์ในโฆษณารายการทีวีก็มากจนการหารายได้นั้นสิ่งที่ต้องทำคือให้สามารถอยู่รอดได้เสียก่อน เพื่อคงไว้ซึ่งรายการของพวกเรา เพื่อแฟนรายการที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่ที่บ้าน ได้เปิดดูพวกเรา เพื่อสาระ เพื่อความผ่อนคลาย เพื่อความสนุก และพวกเราก็ทำด้วยใจอย่างมีความสุขถ้วนหน้ากันครับ ขณะที่รายการทีวีของหนุ่ยในไทยรัฐและช่องอื่นๆ ล่าสุดก็เห็นว่ายกเลิกไปหมดแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรอันนี้ผมก็ต้องบอกเลยว่าไม่ทราบจริงๆ เพราะไม่ได้ไปสอบถามเขาแต่อย่างใด และหนุ่ยก็หันไปทำรายการใน Line TV แต่เพียงอย่างเดียวแล้ว โดยที่พวกผมเองก็ไม่สามารถจะไปร่วมงานด้วยได้ เพราะเรามีอะไรต้องทำเยอะ เพราะพวกเราต้องทุ่มเทให้กับบริษัทของพวกเราเองอย่างเต็มที่ และยังมีภารกิจที่ต้องทำงานส่วนตัวของพวกเรา รวมถึงดูแลครอบครัวของเราอีกด้านหนึ่ง ปัจจุบันเวลาของรายการเรานั้นก็ยังอยู่ที่ช่อง Nation Channel ช่อง 22 เพียงแต่ย้ายเวลามาอยู่ในวันเสาร์ 16:00-17:00 หนึ่งชั่วโมงเหมือนเคยนะครับ สัญญาครับว่าเรายังคงตั้งใจทำรายการไอทีนี้ต่อไปให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่มีใครอยากดูมัน ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม ขอบพระคุณทุกแรงใจที่มีต่อพวกเรานะครับ แล้วเจอกันข้างนอก ก็อย่าลืมทักทายกันนะครับ ไม่ต้องเขินหรือเกรงใจเพราะทุกครั้งที่พวกท่านทักทายเรา มันเป็นเสมือนอีกหนึ่งกำลังใจที่ช่วยให้พวกเราตั้งหน้าตั้งตาทำรายการ “ล้ำหน้าโชว์” ต่อไปให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ ขอบพระคุณมากๆครับผม แล้วพบกันครับผม
ปล.มีคำถามว่าแล้วทำไมตอนที่เลิกแบไต๋แล้ว พี่ปีเตอร์กวงไม่ไปแจมรายการอย่าง เกมโชว์โซเชียล หรือ The Reviewer ล่ะครับ ก็ต้องบอกว่าโดยอาชีพผมทำงานประจำ แล้วตอนนั้นรายการใหม่ๆของหนุ่ยที่ออกทางไทยรัฐทีวี เขาถ่ายทำกันในเวลาทำงานของผม ทำให้ผมก็เลยไม่ได้ไปแจมงานเขาอีกเลยนับแต่นั้น ส่วนรายการล้ำหน้าโชว์ เราออกอากาศสดและทำกันวันอาทิตย์ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาแต่อย่างใด (รายการเราเองก็กำหนดเวลาได้เอง จริงไหม อิอิ
) 
สมาชิกหมายเลข 3444299 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5427375 ถูกใจ, ครูเก่งครับ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5466430 ถูกใจ, ม่อน ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 3872107 ถูกใจ, วัวน้อย ถูกใจ, whiteaquamarine ถูกใจ, เราชาวปูอยู่ในรูกระดึ๊บ ๆ ถูกใจ, วงกลม ซึ้งรวมถึงอีก 76 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 12
สวัสดีครับ ผม อ.ศุภเดช ครับ
พี่กวงตอบไปหมดแล้วครับ
แต่น้ำตาไหลพรากๆ เพราะโดยเรียกเป็น น้า นี่แหละ
พี่กวงตอบไปหมดแล้วครับ
แต่น้ำตาไหลพรากๆ เพราะโดยเรียกเป็น น้า นี่แหละ
สมาชิกหมายเลข 3444299 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5427375 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5645239 ถูกใจ, ครูเก่งครับ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5466430 ถูกใจ, วัวน้อย ถูกใจ, ILoveOPMrO ซึ้ง, วงกลม ขำกลิ้ง, หนุ่มน้อยไอที ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 769606 ขำกลิ้งรวมถึงอีก 56 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 27
สวัสดีครับ ชาวพันทิปทุกท่าน ผมพี่หลามจิ้กโก๋ไอที
ปกติไม่ค่อยโพสอะไรที่นี่ เพราะเคยมีไอดี แต่โดนแบนเมื่อนานมาแล้ว เลยอ่านอย่างเดียว
คำถามที่ทุกท่านสงสัย ผมช่วยตอบให้ได้แบบสบายๆเลย เพราะไม่มีความลับอะไร
1. ทำไมแบไต๋ถึงเลิก
1.1 ตอนนั้น หนุ่ยไปลงทุนทำรายการช่วงดิจิอลทีวีมาใหม่ๆหลายรายการ แล้วขายโฆษณาได้ไม่เพียงพอ ขาดทุนไปเยอะ รวมถึงแบไต๋ สปอนเซอร์ก็น้อยลงด้วย
1.2เรื่องสถานที่ถ่ายรายการ ที่หมดสัญญา ไม่มีปัญหาเลย ที่ถ่ายมีเยอะแยะครับ
** รวมไปถึงปัญหาอื่นๆที่ทุกคนคิดกัน เรื่องอะไรๆถล่มๆไม่ใช่เลยครับ ขอบอกไว้ตรงนี้เลย **
1.3 หนุ่ย ไปคุยกับช่องไทยรัฐทีวี หวังจะทุ่มเทกับช่องนี้อย่างเต็มตัว มีการรับปากกันว่าจะทำรายการที่ช่องนี้ช่องเดียว รายการอื่นๆจะเลิกทำหมด
1.4 ทำไมไม่ย้ายแบไต๋มาไทยรัฐ เลิกทำไม ย้ายไม่ได้ครับ นโยบายช่องไทยรัฐไม่รับรายการเก่าจากที่อื่น ถ้าจะมาทำต้องคิดใหม่หมด ชื่อเดิมก็ไม่ได้
1.5 หนุ่ยจึงต้องตัดสินใจ ถ้าจะมาไทยรัฐ เค้าต้องทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ไปหวังข้างหน้าอย่างเดียว ซึ่งผมเข้าใจ ว่าหนุ่ยต้องทำ เพื่อแก้สถานการณ์
1.6 พอคิดรายการใหม่ไปเสนอ รูปแบบเดิมที่เราเคยทำในแบไต๋ก็ไม่ผ่านแล้วครับ ไทยรัฐไม่อยากได้รายการข่าวไอที แต่เค้าอยากได้รายการไอทีที่บันเทิงมากๆ(ย้ำ...มากๆๆๆๆ) ซึ่งผมมีรูปแบบรายการ เดอะ รีวิวเวอร์ อยู่ในหัว เป็นรายการที่เคยคิดจะทำ แต่ยังไม่มีโอกาส ก็เลยเอาความคิดนี้มาปรับให้มันบันเทิงเยอะๆ ส่งไป ก็ผ่านและได้ทำออกมาอย่างที่เห็นกัน
1.7 ผม ศุภเดช ปีเตอร์กวง เราสามคนมีความชอบรายการแนวแบไต๋ มันให้ความรู้คนได้ดีกว่า บอกเล่าเรื่องราวได้ดีกว่า มีความเป็นข่าว ตลกได้แบบตามธรรมชาติ ไม่ต้องเซ๊ตมุกเยอะ เมื่อหนุ่ยไปทำที่ไทยรัฐและไม่ได้ทำแบบเดิมแล้ว เราสามคนก็หันหน้ามามองกันว่า เราต้องสานต่อเจตนารมณ์เดิมกันเองแล้วละ เพราะเราเชื่อว่าคนที่อยากดูรายการแบบแบไต๋ก็ต้องมี อาจจะเยอะด้วย(ไม่ได้ยอตัวเองนะ เราเจียมตนเสมอ) จึงเกิดความคิดที่จะทำรายการ ล้ำหน้าโชว์ ขึ้นมา คราวนี้ตั้งใจจะทำแบบหุ้นกันทำเอง เอาชีวิตมาเสี่ยงลงทุนทำกันเอง หารายได้เอง แบกรับทุกอย่างเอง เพื่อให้รายการนี้คงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องเลิกทำด้วยเหตุผลใดๆอีก เพราะพวกผมสามคน เราอยู่วงการนี้ เราชอบรายการแนวนี้ ซึ่งเราได้ไปถามหนุ่ยแล้วว่าจะร่วมหุ้นด้วยมั้ย หนุ่ยไม่ขอมาร่วมแจม เพราะเค้ามีหน้าที่ต้องดูแลบริษัทเค้า และต้องทำที่ไทยรัฐเท่านั้นที่รับปากกันไว้ นี่คือเหตุผล มีแค่นี้จริงๆ
1.8 เรื่องนี้เชื่อได้หรือไม่ ไปถามหนุ่ยได้ครับ คือเวลาหนุ่ยตอบ เค้าจะกังวลว่าแฟนรายการจะผิดหวัง แต่จริงๆแล้วทุกอย่างมันมีอุปสรรคอยู่ ซึ่งบอกคนอื่นไปก็อาจจะไม่เข้าใจ แต่ผมพูดได้เต็มปาก เพราะมันไม่ได้กระทบอะไรผม และผมเป็นคนตรง
1.9 คำถามที่ว่า พวกเราแตกกัน มีปัญหากันหรือไม่ ไม่เลยครับ เราสี่คนยังเหมือนเดิม แค่ไม่ได้ทำร่วมกันเท่านั้น เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามเป้าหมายของแต่ละคน ก็แยกกันไป ไม่ต้องทะเลาะกันก็ได้นี่นา ใช่ปะ
ปกติไม่ค่อยโพสอะไรที่นี่ เพราะเคยมีไอดี แต่โดนแบนเมื่อนานมาแล้ว เลยอ่านอย่างเดียว
คำถามที่ทุกท่านสงสัย ผมช่วยตอบให้ได้แบบสบายๆเลย เพราะไม่มีความลับอะไร
1. ทำไมแบไต๋ถึงเลิก
1.1 ตอนนั้น หนุ่ยไปลงทุนทำรายการช่วงดิจิอลทีวีมาใหม่ๆหลายรายการ แล้วขายโฆษณาได้ไม่เพียงพอ ขาดทุนไปเยอะ รวมถึงแบไต๋ สปอนเซอร์ก็น้อยลงด้วย
1.2เรื่องสถานที่ถ่ายรายการ ที่หมดสัญญา ไม่มีปัญหาเลย ที่ถ่ายมีเยอะแยะครับ
** รวมไปถึงปัญหาอื่นๆที่ทุกคนคิดกัน เรื่องอะไรๆถล่มๆไม่ใช่เลยครับ ขอบอกไว้ตรงนี้เลย **
1.3 หนุ่ย ไปคุยกับช่องไทยรัฐทีวี หวังจะทุ่มเทกับช่องนี้อย่างเต็มตัว มีการรับปากกันว่าจะทำรายการที่ช่องนี้ช่องเดียว รายการอื่นๆจะเลิกทำหมด
1.4 ทำไมไม่ย้ายแบไต๋มาไทยรัฐ เลิกทำไม ย้ายไม่ได้ครับ นโยบายช่องไทยรัฐไม่รับรายการเก่าจากที่อื่น ถ้าจะมาทำต้องคิดใหม่หมด ชื่อเดิมก็ไม่ได้
1.5 หนุ่ยจึงต้องตัดสินใจ ถ้าจะมาไทยรัฐ เค้าต้องทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ไปหวังข้างหน้าอย่างเดียว ซึ่งผมเข้าใจ ว่าหนุ่ยต้องทำ เพื่อแก้สถานการณ์
1.6 พอคิดรายการใหม่ไปเสนอ รูปแบบเดิมที่เราเคยทำในแบไต๋ก็ไม่ผ่านแล้วครับ ไทยรัฐไม่อยากได้รายการข่าวไอที แต่เค้าอยากได้รายการไอทีที่บันเทิงมากๆ(ย้ำ...มากๆๆๆๆ) ซึ่งผมมีรูปแบบรายการ เดอะ รีวิวเวอร์ อยู่ในหัว เป็นรายการที่เคยคิดจะทำ แต่ยังไม่มีโอกาส ก็เลยเอาความคิดนี้มาปรับให้มันบันเทิงเยอะๆ ส่งไป ก็ผ่านและได้ทำออกมาอย่างที่เห็นกัน
1.7 ผม ศุภเดช ปีเตอร์กวง เราสามคนมีความชอบรายการแนวแบไต๋ มันให้ความรู้คนได้ดีกว่า บอกเล่าเรื่องราวได้ดีกว่า มีความเป็นข่าว ตลกได้แบบตามธรรมชาติ ไม่ต้องเซ๊ตมุกเยอะ เมื่อหนุ่ยไปทำที่ไทยรัฐและไม่ได้ทำแบบเดิมแล้ว เราสามคนก็หันหน้ามามองกันว่า เราต้องสานต่อเจตนารมณ์เดิมกันเองแล้วละ เพราะเราเชื่อว่าคนที่อยากดูรายการแบบแบไต๋ก็ต้องมี อาจจะเยอะด้วย(ไม่ได้ยอตัวเองนะ เราเจียมตนเสมอ) จึงเกิดความคิดที่จะทำรายการ ล้ำหน้าโชว์ ขึ้นมา คราวนี้ตั้งใจจะทำแบบหุ้นกันทำเอง เอาชีวิตมาเสี่ยงลงทุนทำกันเอง หารายได้เอง แบกรับทุกอย่างเอง เพื่อให้รายการนี้คงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องเลิกทำด้วยเหตุผลใดๆอีก เพราะพวกผมสามคน เราอยู่วงการนี้ เราชอบรายการแนวนี้ ซึ่งเราได้ไปถามหนุ่ยแล้วว่าจะร่วมหุ้นด้วยมั้ย หนุ่ยไม่ขอมาร่วมแจม เพราะเค้ามีหน้าที่ต้องดูแลบริษัทเค้า และต้องทำที่ไทยรัฐเท่านั้นที่รับปากกันไว้ นี่คือเหตุผล มีแค่นี้จริงๆ
1.8 เรื่องนี้เชื่อได้หรือไม่ ไปถามหนุ่ยได้ครับ คือเวลาหนุ่ยตอบ เค้าจะกังวลว่าแฟนรายการจะผิดหวัง แต่จริงๆแล้วทุกอย่างมันมีอุปสรรคอยู่ ซึ่งบอกคนอื่นไปก็อาจจะไม่เข้าใจ แต่ผมพูดได้เต็มปาก เพราะมันไม่ได้กระทบอะไรผม และผมเป็นคนตรง
1.9 คำถามที่ว่า พวกเราแตกกัน มีปัญหากันหรือไม่ ไม่เลยครับ เราสี่คนยังเหมือนเดิม แค่ไม่ได้ทำร่วมกันเท่านั้น เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้ายกันไปทำงานตามเป้าหมายของแต่ละคน ก็แยกกันไป ไม่ต้องทะเลาะกันก็ได้นี่นา ใช่ปะ
สมาชิกหมายเลข 3444299 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5427375 ถูกใจ, ครูเก่งครับ ถูกใจ, วัวน้อย ถูกใจ, whiteaquamarine ถูกใจ, เราชาวปูอยู่ในรูกระดึ๊บ ๆ ถูกใจ, วงกลม ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 769606 ถูกใจ, ใต้ร่มเงาขาว-กรมท่า ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1364889 ถูกใจรวมถึงอีก 52 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
หนุ่ย พงษ์สุข กับ สามน้า เขาแยกทางกันหรือขยายรายการครับ ?
ตกลงเขาแยกทางกันหรือเขาขยายรายการไปช่องต่างๆครับ